บันทึกอนุทิน
วัน/เดือน/ปี 21 มกราคม 2558
ครั้งที่ 2 เวลาเรียน 8:30 น. - 12:20 น.
เวลาเข้าสอน 8:30 น. เวลาเข้าเรียน 8:30 น. เวลาเลิกเรียน 12:20 น.
ความรู้ที่ได้รับในวันนี้
วันนี้อาจารย์ได้ทบทวนเพลง นม โดยให้นักศึกษาร้องเพลง นม ให้ฟังและอาจารย์ได้สอนนักศึกษาร้องเพลงที่ใช้สำหรับบำบัดเด็กพิเศษที่เหลือ มีดังนี้
1. เพลง อาบน้ำ
2. เพลง แปรงฟัน
3. เพลง พี่น้องกัน
4. เพลง มาโรงเรียน
ผู้แต่ง อาจารย์ ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อาจารย์ ตฤณ แจ่มถิน
ต่อมาอาจารย์ก็ได้สอนภาคทฤษฎี โดยหัวข้อที่เรียนในวันนี้ มีดังนี้ รูปแบบการจัดการศึกษา ว่ามีรูปแบบใดบ้าง - การศึกษาปกติทั่วไป - การศึกษาพิเศษ - การศึกษาแบบเรียนร่วม - การศึกษาแบบเรียนรวม
การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หมายถึง เด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming) หมายถึง - ให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป - ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน - ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน การเรียนร่วมบางเวลา (Integration) หมายถึง - จัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา - เด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก จึงไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้ การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming) หมายถึง - เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย - ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้ (เป็นวัยทองของชีวิต 0-7 ปี)
เมื่ออาจารย์สอนทฤษฎีเสร็จแล้ว อาจารย์ก็แจกกระดาษให้นักศึกษาคนละ 1 แผ่น
เพื่อเป็นการทดสอบหลังเรียน อาจารย์มีคำถามให้นักศึกษา 3 ข้อ ในการทำแบบทดสอบหลังเรียนในครั้งนี้ อาจารย์อนุญาตให้นักศึกษาปรึกษาเพื่อนที่นั่งด้านข้างซ้าย - ขวาได้ เมื่อนักศึกษาทุกคนทำแบบทดสอบหลังเรียนเสร็จแล้วให้ส่งกระดาษคำตอบให้อาจารย์ที่โต๊ะหน้าห้องเรียน
เพลงที่ใช้สำหรับบำบัดเด็กพิเศษค่ะ
อาจารย์ฟังนักศึกษาร้องเพลงค่ะ
สรุป
จากวันนี้ที่ได้ร้องเพลงที่ใช้สำหรับบำบัดเด็กพิเศษทำให้รู้ว่า เพลงที่ใช้สำหรับบำบัดเด็กพิเศษแต่ละเพลง มีจังหวะและทำนองที่แตกต่างกัน ดังนั้น ทุกคนจึงควรฝึกร้องเพลงที่ใช้สำหรับบำบัดเด็กพิเศษให้ถูกจังหวะและทำนอง ก่อนที่จะนำไปใช้ในชีวิตจริงกับการเป็นครูปฐมวัยและจากการที่ได้เรียนภาคทฤษฎีในวันนี้ทำให้ดิฉันทราบความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวม ว่ามีความหมายว่าอย่างไรและการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวมนั้นมีความหมายที่แตกต่างกัน ตามความคิดของดิฉันเมื่อก่อนดิฉันคิดว่าการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวมนั้นมีความหมายที่เหมือนกันทุกประการ แต่จากวันนี้ที่ได้เรียนทำให้ดิฉันได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวม ดิฉันจะได้จดจำความรู้ที่ถูกต้องและนำไปใช้ในอนาคตค่ะ วันนี้เป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบหลังเรียน ซึ่งดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะ กลัวจะทำคะแนนสอบหลังเรียนได้ไม่ดี การที่มีการทดสอบหลังเรียนหลังจากที่เรียนเสร็จ ดิฉันคิดว่าดีตรงที่พอเรียนเสร็จก็ทดสอบหลังเรียนเลย เพื่อเป็นการทดสอบการสนใจเรียนของนักศึกษาและยังเป็นการท้าทายอีกด้วยค่ะ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
1. สามารถนำความรู้ด้านการร้องเพลงไปใช้บำบัดเด็กพิเศษได้ในชีวิตจริง
2. สามารถนำความรู้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในการศึกษาแบบเรียนร่วมและการ ศึกษาแบบเรียนรวมได้
3. สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ไปใช้ส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิเศษได้และไม่ควรให้เด็กปกติ ล้อเด็กพิเศษ เพราะ เด็กจะเสียใจ มีปมด้อยและไม่อยากมาโรงเรียน
การประเมินผล
ประเมินตนเอง
วันนี้ดิฉันมาเรียนทันเวลา แต่งกายถูกระเบียบเรียบร้อย ตั้งใจเรียน ไม่พูดคุยกับเพื่อนขณะที่อาจารย์สอนและร่วมทำกิจกรรมร้องเพลงกับเพื่อนในห้องเรียน
ประเมินเพื่อน
วันนี้มีเพื่อนอีกกลุมหนึ่งมาเรียนด้วย ในห้องเลยมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนกันอย่างดี ช่วยกันร้องเพลง มีเพื่อนบางคนอาจารย์ชมว่าร้องเพลงเพราะ เสียงดี
ประเมินอาจารย์
วันนี้อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้ม แจ่มใส อาจารย์ร้องเพลงเพราะมากค่ะ เสียงอาจารย์ฟังแล้วน่าฟัง ฟังอาจารย์ร้องเพลงแล้วเพลินมากเลยค่ะและอาจารย์ตั้งใจสอนมากค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น